ประเทศไทยเราอาหารส่วนใหญ่ถ้าเป็นของคาวเรื่องรสชาติจัดจ้านไม่แพ้ใครเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นแกง ยำ ผัดเผ็ด ผัดฉ่า ฯลฯ มักจะมีความเผ็ดร้อนซ่อนอยู่ อันว่าพริกบ้านเราอย่างพริกขี้หนู พริกชี้ฟ้าว่าเผ็ดแล้ว แต่พริกต่างประเทศเผ็ดกว่าเราเยอะ อย่างเช่น Carolina Reaper พริกที่ตอนนี้อยู่เบอร์หนึ่งของความเผ็ด
Carolina Reaper พริกระดับโคตรเผ็ด
ทางวิทยาศาสตร์เค้ามีการจัดหน่วยวัดระดับความเผ็ดของพริกไว้มากมาย อันดับที่ 1 ของความเผ็ดได้แก่ Carolina Reaper พริกที่มีรูปลักษณ์แปลกตามาก กล่าวคือ พริกนี้พอสุกแล้วจะมีผลเป็นสีแดงผิวขรุขระ ลักษณะคล้ายลูกเชอรี่ขนาดย่อมแต่มีจุกปลายแหลม
Carolina Reaper พริกทางเลือก
พริกชนิดนี้การปลูกจะต้องอาศัยอากาศร้อนชื้นเป็นหลัก นั่นก็ถือว่าเข้าทางประเทศไทยเลย ทำให้เกษตรกรหลายคนทั้งมือสมัครเล่น และมืออาชีพมองเห็นช่องทางทำกำไร เลยได้มีการทดลองปลูกกันมาแล้วสักระยะหนึ่ง ปรากฏว่า Carolina Reaper สามารถปรับตัวให้เติบโตในสภาพบ้านเราได้ เลยทำให้เริ่มแพร่หลายมากขึ้น พริกทางเลือกแบบนี้บอกเลยว่าขายดีมาก มีคนอยากลองกินและอยากนำไปประกอบอาหารเยอะแยะมากมาย
วิธีการปลูก Carolina Reaper
ขั้นตอนการปลูก Carolina Reaper ยากหน่อยสำหรับช่วงเริ่มต้น หากเราได้เมล็ดพันธุ์มาให้นำมาวางไว้บนทิชชู่ พรมน้ำเล็กน้อย จากนั้นใส่ถุงซิปล็อคปิดให้สนิทวางไว้เพื่อรับแสงแดดอ่อนอย่างน้อยวันละ 1-2 ชั่วโมงเพื่อให้เมล็ดงอกออกมา แนะนำว่าเมล็ดพันธุ์จากผลสดจะงอกได้ดีกว่า ผลแห้ง
ช่วงที่สอง พอเมล็ดงอกออกมา เราก็จะนำเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไปลงดินเพื่อเพาะให้มันกลายเป็นต้นกล้าขึ้นมา วิธีการก็ไม่มีอะไรมากเตรียมดินร่วนพร้อมใส่ปุ๋ยลงไปเล็กน้อย ใส่เมล็ดลงไปรดน้ำให้ตรงเวลา ทริคคือเราต้องรดน้ำให้ชุ่มทุกวันจนกว่าจะถึงช่วงเวลาออกดอกตรงนี้วัดใจเลยเนื่องจากใช้เวลานานมากถึง 5 เดือน
ช่วงที่สามการออกดอก หลังจากต้นกล้าเติบโต ก็จะมาถึงการผสมพันธุ์ดอก วิธีการก็คือเราต้องบังคับผสมเกสรเองด้วยการเอาสำลีปั่นหู ถูเกสรของดอกหนึ่งแล้วไปสัมผัสของอีกดอกหนึ่ง จากนั้นก็มาลุ้นว่ามันจะติดออกลูกมาได้หรือไม่
ขั้นสุดท้ายหากเกสรผสมติดดี เราก็จะได้ผล Carolina Reaper ออกมาให้เฉยชมกัน ช่วงแรกจะเป็นผลสีเขียวเข้ม ตอนนี้ยังกินไม่ได้ให้บำรุงต่อไปจนผลเปลี่ยนเป็นสีแดง ก็เด็ดมาลองกินได้เลย
การปลูก Carolina Reaper พริกทางเลือกพวกนี้ต้องบอกเลยว่าช่วงแรก อาจจะต้องใช้ความใส่ใจ ความพยายาม ความอดทนกันมากมาย แต่พอเป็นรุ่นต่อๆมาเราก็จะทำได้ดีขึ้นจนนำผลไปส่งขายได้ในที่สุด