โหระพาถือเป็นพืชสมุนไพรที่มักนิยมนำไปใส่ในอาหารหลายๆ ชนิดเพื่อให้มีกลิ่นหอมและทำให้รสชาติของอาหารอร่อยมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หลายคนยังนิยมทานโหระพาสดๆ แกล้มกับอาหารรสจัดอีกด้วย เพราะฉะนั้นโหระพาจึงถือเป็นสมุนไพรคู่ครัวไทยมาอย่างช้านาน ลักษณะของต้นโหระพานั้นจะเป็นพืชล้มลุก ลำต้นจะเป็นพุ่มทรงสูงราว 60 – 70 ซม. ใบสีเขียว ก้านใบกับลำต้นออกสีม่วง ถือเป็นผักสมุนไพรที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเลยก็ว่าได้สำหรับโหระพา
การเตรียมดิน
- ให้ใช้จอบขุดดินลงไปลึกราว 15 – 20 ซม. หรือความลึกประมาณ 1 หน้าจอบ
- ให้ใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักลงแปลงที่มีขนาดกว้าง 1 เมตร ส่วนความยาวของแปลงก็ตามแต่พื้นที่ได้เลยไม่ได้มีการกำหนดตายตัว
- ขุดหลุมปลูกให้ลึกลงไปอีกประมาณครึ่งหน้าจอบ
- มีการเว้นระยะห่างของต้นประมาณ 30 ซม. และช่วงระหว่างแถว 60 ซม.
วิธีการปลูก
- ให้ทำแปลงเพาะมีขนาดความกว้างราว 1 เมตร ส่วนความยาวของแปลงก็ตามแต่พ้นที่ได้เลยไม่ได้มีการกำหนดตายตัว
- ทำการย่อยดินให้ละเอียด ไม่ติดกัน แล้วนำมาคลุกกับปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักให้เข้ากันอย่างดี
- ทำการหว่านเมล็ดโหระพาลงไปให้ทั่วทั้งแปลง
- เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 7 – 10 วัน เมล็ดของโหระพาที่หว่านเอาไว้ก็จะค่อยๆ เริ่มงอกเป็นต้นกล้าออกมาให้เราได้เห็นกัน
- ให้ทำการดูแลรักษาต้นกล้าใหม่นี้อย่างดีที่สุดเป็นเวลา 25 – 30 วัน เมื่อต้นกล้าแข็งแรงดีแล้ว ก็ทำการขุดย้ายต้นกล้าดังกล่าวไปไว้ยังแปลงดินที่เราได้เตรียมเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้
การดูแล
- ให้ทำการใส่ปุ๋ยเมื่อต้นโหระพามีอายุได้ราว 10 – 15 วัน
- เลือกใช้ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนี่ยมซัลเฟต 1 – 2 ช้อนชาต่อปริมาณน้ำ 10 ลิตร โดยให้รดทุกๆ 5 – 7 วัน
- พอต้นโหระพาอายุได้ 25 – 30 วัน ก็ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ด้วยอัตรา 1 ช้อนชาต่อต้น โดยใส่ทุกๆ 25 – 30 วัน วิธีการก็คือให้ทำการโรยห่างโคนต้นเล็กน้อยประมาณ 3 – 5 ซม. หรือบางคนก็เลือกใช้ปุ๋ยคอกกับปุ๋ยหมักบ่อยๆ โดยเลือกใช้ปุ๋ยที่มีสูตรเคมีให้น้อยลงก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
- ด้านการให้น้ำก็ให้เป็นปกติ ต้องมีความเพียงพอและให้อ่างสม่ำเสมอ
- ต้องมีการดูแลและกำจัดวัชพืชเป็นประจำ ไม่อย่างนั้นอาจทำให้โหระพาโตขึ้นมาไม่สวยหรือบางครั้งหากโดนวัชพืชเล่นงานมากๆ ก็ตายลงได้เหมือนกัน
- ถ้าออกดอกให้แต่งทิ้งเพื่อให้เป็นทรงพุ่มที่แข็งแรงและอายุยืนกว่าเดิม